น้ำยาแอร์รถยนต์หมด
โดยปกติแล้วน้ำยาแอร์ในรถยนต์จะไม่หายไปไหน และไม่หมด ถ้าหากไม่รั่วไม่ซึม การทำงานของระบบแอร์รถยนต์ทำงานโดยควบคุมสารทำความเย็นระหว่างสถานะของเหลวและก๊าซใช้แรงดันสูงและต่ำ เมื่อสารทำความเย็น (Refrigerant) เปลี่ยนสถานะเป็นของเหลว ระบบแอร์รถยนต์จะดูดซับความร้อนและความชื้นจากรถยนต์เพื่อปล่อยความเย็นออกมา
ปัญหาที่ทำให้แอร์รถยนต์ไม่เย็น
1. น้ำยาแอร์หมด หรือแอร์ขาด
2. ตู้แอร์ สายท่อแอร์ หรือข้อต่อต่างๆ เกิดรอยรั่วซึม
3. ลูกสูบภายในคอมเพรสเซอร์หลวม ไม่มีแรงอัด
4. สายพานคอมเพรสเซอร์แอร์หย่อน
5. ระบบแผงระบายความร้อนหรือพัดลมหน้าแผงคอยล์ไม่ทำงาน
6. การใช้น้ำยาแอร์กับรถยนต์ที่ผิดประเภท
สัญญาณบ่งบอกน้ำยาแอร์รถยนต์หมด
หลายคนที่มีรถยนต์ส่วนตัวคงเคยพบเจอกับปัญหาน้ำยาแอร์รถยนต์ หมด เร็ว หรือน้ำยาแอร์เหลือน้อย เน้ำยาแอร์รถยนต์ หมด ดู ยัง ไง และนั่นเป็นสิ่งที่ทุกคนที่ใช้รถยนต์ไม่ควรละเลยสังเกตได้ด้วยตนเองแม้ไม่ใช่ช่างมืออาชีพเพราะสัญลักษณ์ น้ำยาแอร์หมดจะไม่มีปรากฏแจ้งเตือนบนหน้าปัด แต่จะเช็คได้ดังนี้
1. ให้ใช้มือสัมผัสอากาศที่ออกจากช่องแอร์รถยนต์ หากรู้สึกแอร์มีลมเย็นจางๆ ไม่ว่าจะหมุนปรับระดับความเย็นสูงสุดแล้วก็ตามแต่ความเย็นก็ไม่เพิ่มขึ้น อาจสันฐานได้ว่าน้ำยาแอร์รถอาจหมด
2. เสียงดังผิดปกติทุกครั้งที่เปิดแอร์รถยนต์
3. แอร์รถยนต์มีกลิ่นเหม็นอับแปลกๆ ตอนเปิดแอร์เกิดจากแอร์ไม่สามารถระบายความชื้นออกได้หมด
เช็คน้ำยาแอร์รถยต์รั่วทำได้อย่างไร
ถ้ามีการรั่วให้สังเกตตรงรอยต่อตามท่อของน้ำยาแอร์ 2 ท่อ คือ
1. ท่อ Hi คือ ท่อที่ส่งน้ำยาแอร์ไปที่คอนเด็นเซอร์ (คอยล์ร้อน)
2. ท่อ Low คือ ท่อที่ส่งน้ำยาแอร์ไปที่อีวาโปเรเตอร์ (คอยล์เย็น)
ให้เราไล่ดูตามท่อว่ามีคราบน้ำมันซึมออกมาไหม หากมีแสดงว่าเกิดการรั่วของน้ำยาแอร์รถยนต์แล้ว ก็จะทำให้น้ำยาแอร์รถยนต์แห้งหรือหมด ทำให้แอร์ในรถยนต์ไม่เย็น
เช็คปริมาณน้ำยาแอร์รถว่ายังมีอยู่หรือใกล้หมด
วิธีการคือ ต้องตรวจเช็คแรงดันของน้ำยาแอร์ที่มีอยู่ในระบบ สังเกตที่วาล์วเติมน้ำยาแอร์ในวาล์วจะมีศรข้างในอยู่เล็กๆ เราสามารถกดที่ศรเพื่อเช็คว่ามีแรงดันน้ำยาแอร์ออกมาไหม ถ้ามีน้ำยาแอร์พุ่งออกมา มีลมออกมาด้วย แสดงว่ายังมีน้ำยาแอร์อยู่ แต่ถ้ากดไปไม่มีลมออกมาเลย แสดงว่าน้ำยาแอร์ไม่มีในระบบแล้วก็ควรไปให้ช่างตรวจสอบและซ่อมรอยรั่วก่อนเติมน้ำยาแอร์รถยนต์เข้าไปใหม่ ซึ่งมี วิธีเติมน้ำยาแอร์ ที่ถูกต้องโดยช่างผู้ชำนาญ
น้ำยาแอร์ 134a ยี่ห้อไหนดี
R134a หรือ HFC-134a เป็นน้ำยาแอร์ที่ช่างนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายใช้ในเครื่องปรับอากาศสำหรับที่พักอาศัย เครื่องปรับอากาศในรถยนต์ และระบบทำความเย็นเชิงพาณิชย์อุตสาหกรรมการผลิต น้ำยาแอร์134a ยี่ห้อไหนดีที่สุดในปี 2023 ต้องยี่ห้อ FORANE นำเข้าจากประเทศฝรั่งเศส เป็นที่ยอมรับในวงการน้ำยาแอร์มายาวนานมากกว่า 40 ปี แล้วไม่มีความเป็นพิษ ไม่มีคลอรีน ไม่ติดไฟ ไม่ทำลายโอโซน มีความปลอดภัยไม่กัดกร่อน และช่วยประหยัดพลังงาน มีความบริสุทธิ์สูงสุด มีความชื้นต่ำสุด มีแรงดันไอต่ำ มีความสามารถในการนำความร้อนและทำความเย็นดีเยี่ยม มีให้เลือกทั้งหลายรุ่นหลายขนาด
ขั้นตอนการเติมน้ำยาแอร์
1. ประกอบสายเข้ากับมิเตอร์วัดแรงดัน พร้อมอแดพเตอร์ให้ครบ
2. หาสัญลักษณ์ตัว “L” (LOW/แรงดูด) เอาจุกออกแล้วต่อกับสายสีน้ำเงิน
3. หาสัญลักษณ์ตัว “H” (HIGH/แรงดัน) เอาจุกออกแล้วต่อกับสายสีแดง
4. นำสายสีเหลืองต่อกับถังน้ำยาแอร์ พร้อมเปิดถัง และไล่อากาศก่อนเข้ามิเตอร์
5. ไล่อากาศด้วยการคลายน้ำยาแอร์ออกทั้ง 3 เส้น ประมาณเส้นละ 3 วินาที
6. สตาร์ทเครื่องยนต์ พร้อมเปิดพัดลมแอร์ และน้ำยาแอร์ให้สุด
7. ตรวจดูมาตรวัดด้านซ้าย คือ ระดับน้ำยาแอร์ ต้องอยู่ระหว่าง 30-40 ปอนด์ ถึงจะปกติ
8. ตรวจดูมาตรวัดด้านขวา คือ ระดับแรงดันอากาศ ต้องไม่เกิน 250 ปอนด์ ถึงจะปกติ
9. ถ้าระดับน้ำยาแอร์ต่ำ ต้องเติมน้ำยาแอร์เข้าไป โดยใช้สายสีน้ำเงิน เปิด และปิดครั้งละ 2 วินาที
10. ดูที่ตาแมว ถ้าไม่มีฟอง หรือมีฟองบ้างเล็กน้อย แสดงว่าน้ำยาแอร์เต็ม เป็นอันเสร็จ
เปรียบเทียบราคา เติมน้ำยาแอร์รถยนต์ ราคา 2565 – 2566
- ค่าบริการเติมน้ำยาแอร์รถยนต์ โดยลูกค้านำรถเข้ามาใช้บริการที่ร้าน หรืออู่ซ้อมรถ ราคาเริ่มต้น 500 บาท
- ค่าบริการเติมน้ำยาแอร์รถยนต์ นอกสถานที่ ราคาเริ่มต้น 1000 – 3,500 บาท
สั่งซื้อน้ำยาแอร์คลิ๊ก LINE : @ fillkool